อัพเดทฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 17 Pro มาดูกันเลย
1. ชิป A19 Pro + ระบบระบายความร้อน
- ใช้ชิป A19 Pro ผลิตบนสถาปัตยกรรม 3 nm ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะการประมวลผลต่อเนื่อง (sustained performance) ดีขึ้นประมาณ 40% จากรุ่นก่อน
- มีระบบ “vapor chamber” (ไอระเหย) ระบายความร้อนภายใน ช่วยให้ตัวเครื่องจัดการความร้อนได้ดีขึ้น โดยใช้โครงอะลูมิเนียมเป็นตัวช่วยระบายความร้อนด้วย
- มี Neural Accelerator อยู่ในแต่ละ core ของ GPU + Neural Engine 16-core รุ่นใหม่ เพื่อการประมวลผล AI / on-device intelligence ได้ดีขึ้น
2. ดีไซน์ตัวเครื่อง /วัสดุ
- กลับมาใช้ อะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว (unibody) แทนไทเทเนียม ซึ่งช่วยเรื่องการกระจายความร้อนได้ดีขึ้น
- ด้านหน้าและหลังใช้ Ceramic Shield 2 ซึ่ง Apple ระบุว่าทนรอยขีดข่วนได้ดีขึ้นมาก (scratch resistant)
- มี MagSafe cut-out ที่แยกส่วน กระจกหลัง + อะลูมิเนียม ให้ดีไซน์แบบ “สองโทน” เบา ๆ
3. หน้าจอ / Display
- เป็นจอ Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด ~6.3 นิ้ว (iPhone 17 Pro)
- รีเฟรชเรตสูง (ProMotion) สูงสุด 120Hz
- ความสว่างสูงมาก: Peak Outdoor Brightness ถึง 3,000 nits (มากกว่ารุ่นก่อน)
- เคลือบแบบ anti-reflective เพื่อลดแสงจ้าเมื่อใช้กลางแจ้ง
- รองรับ Always-On Display และมีความมืดต่ำสุด (1 nit) เพื่อประหยัดพลังงาน
4. กล้อง
- กล้องหลัง 3 ตัว: ทุกตัวเป็นเซนเซอร์ 48 MP (Main, Ultra Wide, Telephoto) เพื่อให้รายละเอียดภาพมากขึ้น
- Telephoto รุ่นใหม่: รองรับ 4× optical zoom และ 8× optical zoom (เป็นเทคโนโลยี tetraprism) รวมถึงดิจิทัลซูมได้ถึง 40×
- แพ็กเกจซอฟต์แวร์กล้อง “Photonic Engine” รุ่นอัปเดต ใช้ ML (machine learning) เพื่อเพิ่มคุณภาพภาพ เก็บรายละเอียด ลด noise และปรับสีได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในที่แสงน้อย
- สไตล์ถ่ายภาพ (Photographic Styles) ใหม่ใน iOS 26 — มีสไตล์ “Bright” ที่เน้นสีผิวและความสดของภาพมากขึ้น
- กล้องหน้า (Front) ใช้เซนเซอร์ 18 MP + Center Stage (ติดตามตัวผู้ใช้ตอนวิดีโอคอล)
5. วิดีโอ / Pro Video
- รองรับ ProRes RAW — codec คุณภาพสูง เหมาะกับการตัดต่อแบบโปร
- มี Log 2 Video Recording, รองรับ frame rate แบบ Broadcast, กำกับสีในระดับโปร (“Pro workflows”)
- รองรับ Genlock และ Timecode — ใช้สำหรับงานวิดีโอแบบมืออาชีพ (multi-cam, สตูดิโอ) โดยสามารถทำซิงโครไนซ์กับกล้องอื่นได้
- รองรับ 4K 120 fps Dolby Vision — เพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง
- มีอุปกรณ์เสริม Blackmagic “Camera ProDock” ที่ให้พอร์ตเพิ่มเติม (HDMI, BNC, USB-C ฯลฯ) เพื่อใช้งานแบบมืออาชีพจริงจัง
6. แบตเตอรี่ & การชาร์จ
- แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น: รุ่น Pro ดูวิดีโอได้นาน ~ 33 ชั่วโมง, Pro Max ~ 39 ชั่วโมง ตามสเปก
- ชาร์จไวมากขึ้น: สามารถชาร์จให้ถึง 50% ใน ~20 นาที (ใช้ adapter ที่เหมาะสม)
- รองรับ MagSafe และ Qi 2.2 ชาร์จแบบไร้สายที่สูงถึง 25W
- รุ่นที่ใช้ eSIM (ไม่มีซิมจริง) จะได้แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น (บางตลาด)
7. เชื่อมต่อ /เครือข่าย
- มีชิป N1 ที่ออกแบบโดย Apple สำหรับการเชื่อมต่อ: รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6, และ Thread
- ชิปนี้ช่วยให้การทำงานของ Personal Hotspot, AirDrop มีประสิทธิภาพและเสถียรมากขึ้นด้วย
8. ความทนทาน /การออกแบบเชิงกล
- กันน้ำ / ฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 (สูงสุด 6 เมตร นาน 30 นาที)
- ตัวเครื่องอะลูมิเนียม + Ceramic Shield 2 ช่วยให้ทนทานขึ้น (ทนรอยขีดข่วน)
9. หน่วยความจำ /ความจุ
- รุ่นเริ่มต้นความจุ: 256GB
- มีตัวเลือกความจุสูง เช่น 512 GB, 1 TB
10. Apple Intelligence
- ผสาน Apple Intelligence (AI) บน iOS 26 — ช่วยในแอปและฟีเจอร์ต่าง ๆ โดยประมวลผลบนอุปกรณ์ (on-device) เพื่อความเป็นส่วนตัว
ข้อสรุปฟีเจอร์ในระบบตัวเครื่อง iPhone 17 Pro
การกลับมาใช้ อะลูมิเนียมแทนไทเทเนียม แม้จะเบากว่าและระบายความร้อนได้ดี แต่บางคนอาจชอบความรู้สึกพรีเมียมและแรงกระแทกของไทเทเนียม
ตัวเครื่องอาจ “บางลง” /เบาลงในบางแง่ แต่แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น — ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงว่าได้ประโยชน์มากแค่ไหน
ฟีเจอร์ Genlock / Pro Video เหมาะมากกับคนทำภาพยนตร์หรือวิดีโอมืออาชีพ — ถ้าใช้ทั่วไปอาจไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่
