เลือกหูฟังอย่างไร ให้ได้คุณภาพดี

หูฟังเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากในการฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม หรือแม้กระทั้งการทำงาน แต่ว่าการจะเลือกหูฟังให้ได้คุณภาพดีนั้นไม่ได้ง่าย เนื่องจากมีเหตุหลายชนิดที่จำเป็นต้องพิจารณาถึง ดังเช่นว่า จำพวกของหูฟัง ประสิทธิภาพเสียง ราคา แล้วก็ความสบายสบายสำหรับเพื่อการใช้งาน

ในเนื้อหานี้ พวกเราจะมาเอ๋ยถึงกรรมวิธีเลือกหูฟังให้ได้คุณภาพดี โดยจะย้ำไปที่เหตุต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว เพื่อคุณสามารถเลือกหูฟังที่เหมาะสมกับความอยากและก็งบประมาณของคุณได้

1. ชนิดของหูฟัง

หูฟังมีหลากหลายชนิดให้เลือก แต่ละชนิดก็มีข้อดีขอเสียนาๆประการ ด้วยเหตุนี้คุณควรที่จะเลือกชนิดของหูฟังให้เหมาะสมกับการใช้แรงงานของคุณ

– หูฟังแบบครอบหู (Over-ear headphones) หูฟังจำพวกนี้จะครอบอีกทั้งใบหูของคุณ ก็เลยให้เสียงที่ก้องกังวานและก็มีมิติสูงที่สุด เหมาะกับการฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม
– หูฟังแบบวางบนหู (On-ear headphones) หูฟังจำพวกนี้จะวางอยู่บนใบหูของคุณ ก็เลยให้เสียงที่ค่อยกว่าหูฟังแบบครอบหู แต่ว่าก็ยังให้เสียงที่ก้องกังวานรวมทั้งมีมิติมากยิ่งกว่าหูฟังแบบอินเอียร์ เหมาะกับการฟังเพลงหรือดูหนังระหว่างเดินทาง
– หูฟังแบบอินเอียร์ (In-ear headphones) หูฟังจำพวกนี้จะใส่เข้าไปในช่องหูของคุณ ก็เลยให้เสียงที่ค่อยและก็มีมิติไม่มากสักเท่าไรนัก แต่ว่าก็นำพาสบายและก็เหมาะกับการใช้แรงงานระหว่างบริหารร่างกาย

2. ประสิทธิภาพเสียง

ประสิทธิภาพเสียงเป็นเหตุที่สำคัญที่สุดสำหรับในการเลือกหูฟัง คุณควรที่จะทำการเลือกหูฟังที่มีคุณภาพเสียงดี เพื่อคุณสามารถเพลินกับเสียงดนตรีหรือเสียงหนังได้อย่างมาก

ประสิทธิภาพเสียงของหูฟังนั้นขึ้นกับหลายเหตุ อาทิเช่น ขนาดของไดรเวอร์ ความถี่ที่สนองตอบได้ และก็ความไวของหูฟัง

– ขนาดของไดรเวอร์ = ไดรเวอร์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของหูฟัง ปฏิบัติภารกิจสำหรับในการสร้างเสียง ขนาดของไดรเวอร์จะมีผลต่อประสิทธิภาพเสียง โดยธรรมดา หูฟังที่มีไดรเวอร์ขนาดใหญ่จะให้เสียงที่ก้องกังวานแล้วก็มีมิติมากยิ่งกว่าหูฟังที่มีไดรเวอร์ขนาดเล็ก
– ความถี่ที่สนองตอบได้ = ความถี่ที่สนองตอบได้ของหูฟังจะบอกให้ท่านรู้ดีว่าหูฟังนั้นสามารถรับเสียงได้ในตอนความถี่ใด โดยธรรมดา หูฟังที่ดีต้องมีความถี่ที่สนองตอบได้ตั้งแต่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz
– ความไวของหูฟัง = ความไวของหูฟังจะบอกให้ท่านรู้ว่าหูฟังนั้นสามารถรับเสียงได้ดังขนาดไหน โดยปกติ หูฟังที่ดีควรจะมีความไวตั้งแต่ 90 dB ถึง 110 dB

3. ราคา

ราคาของหูฟังนั้นต่างๆนาๆตั้งแต่หลักร้อยไปจนกระทั่งหลักหมื่นบาท คุณควรที่จะทำการเลือกหูฟังที่ราคาแพงเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

โดยธรรมดา หูฟังที่แพงสูงยิ่งกว่าจะให้ท่านภาพเสียงที่ดียิ่งกว่าหูฟังที่ราคาแพงน้อยกว่า แม้กระนั้นก็ใช่ว่าหูฟังราคาสูงจะให้ท่านภาพเสียงที่ดีเสมอ คุณควรที่จะทำการเลือกหูฟังที่ให้ท่านภาพเสียงเยี่ยมที่สุดในงบประมาณของคุณ

4. ความสบายสบายสำหรับเพื่อการใช้งาน

ความสบายสบายสำหรับการใช้งานเป็นต้นเหตุที่สำคัญมากสำหรับเพื่อการเลือกหูฟัง คุณควรที่จะทำการเลือกหูฟังที่ใส่สบายและไม่ทำให้ท่านรู้สึกเจ็บหู

คุณควรจะทดลองสวมหูฟังก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจซื้อ เพื่อมั่นใจว่าหูฟังนั้นใส่สบายและไม่ทำให้ท่านรู้สึกเจ็บหู

5. การยืนยัน

การยืนยันเป็นเหตุที่สำคัญมากสำหรับในการเลือกหูฟัง คุณควรที่จะทำการเลือกหูฟังที่มีการค้ำประกันอย่างต่ำ 1 ปี เพื่อคุณสามารถเชื่อมั่นได้ว่าหูฟังนั้นจะใช้งานได้นาน

สรุป

การเลือกหูฟังให้ได้คุณภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แค่เพียงคุณนึกถึงสาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น คุณก็จะสามารถเลือกหูฟังที่เหมาะสมกับสิ่งที่จำเป็นและก็งบประมาณของคุณได้

1.เช็คราคา

กระเป๋าแบรนด์เนมแพงที่สูง ไม่ว่าจะมาจากการออกแบบออกแบบ การสร้าง สิ่งของที่ใช้ หรือความวิจิตร ด้วยเหตุนี้แม้ได้กระเป๋าแบรนด์เนมที่ราคาต่ำยิ่งกว่าตลาดเป็นอันมาก ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเป็นของเลียนแบบ ทดลองลงมาเป็นแม้กระเป๋าใบนั้นเป็นของแท้แต่ว่าได้มาในราคาที่ถูกมากมายให้คิดไว้เลยว่ากระเป๋าใบนั้นเสียหายมีจุดชำรุดทรุดโทรมเสียหาย มีรอยขูดขีด


2.เครื่องไม้เครื่องมือ

การที่พวกเราซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง แน่ๆว่าจะพลาดมิได้เลยกับการตรวจเช็ควัสดุอุปกรณ์ โน่นเป็น กล่อง กล่องควรมีความเนี๊ยบไม่แตกสลาย, ถุงผ้าใช้สิ่งของที่มีคุณภาพ มากับการพิมพ์ลายโลโก้ที่งดงามแนบสนิทกับตัวถุง, บิลจากช็อป อีกอย่างที่สำคัญในการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองเป็น การ์ดหรือ care book เพราะว่านับว่าเป็นใบยืนยันว่ากระเป๋าเป็นของแท้


3.ฝีเข็ม

แน่ๆเกี่ยวกับราคาที่แพงของกระเป๋าแบรนด์เนม ความเนี๊ยบก็ต้องตามมาด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้นฝีเข็มที่มีความประณีตและวิจิตรบรรจง แล้วก็กระเป๋าแบรนด์เนมแต่ละแบรนด์มักจำกัดปริมาณฝีเข็มมาเสมอกันเป๊ะทุกใบ ถ้าหากพบฝีเข็มที่ไม่เรียบร้อย ไม่บ่อยนัก มีความเบี้ยว ให้ตีไปเลยว่าใบนั้นเป็นของเลียนแบบ


4.เช็ค Date code

กระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนมากแล้วจะมี Date codeหลบซ่อนอยู่ในกระเป๋า โดยแต่ละแบรนด์จะปั๊มไว้ภายในที่ไม่เหมือนกัน อาทิเช่น ภายในสายของกระเป๋า, ป้าย Tag หรือตามขอบในกระเป๋า รวมทั้ง Date code นี้แต่ละแบรนด์จะมีวิธีการอ่านไม่เหมือนกันออกไปจะมีตัวอักษรเจาะจงประเทศที่ทำกระเป๋า หรือจำนวนปีผลิต


5.มอง LOGO

ที่ละเลยมิได้เลยก็คือ LOGO ของแต่ละแบรนด์เนื่องจากเอกลักษณ์ที่นาๆประการจำเป็นต้องมองว่าสะกดถูกไหม ขนาดตรงหรือไม่ โลโก้มีความแหลมคมชัดหรือเปล่า ด้วยเหตุว่าหากโลโก้ไม่ชัดเจนมีความจาง การเว้นแตกต่างกันให้ตีไปเลยว่านี่ล่ะของเก๊มั่นใจ


6.เปรียบเทียบดู

เทียบในที่นี้เป็น เทียบผลิตภัณฑ์กับรูปภาพผลิตภัณฑ์จากทางเว็บของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น ขนาดตัวหนังสือ ความเงาของอะไหล่ รวมทั้งข้างในกระเป๋า ด้วยเหตุว่าของเทียมมักที่จะหลีกเลี่ยงแสดงรูปถ่ายเนื้อหาด้านในกระเป๋า