เตรียมพร้อม! ก่อนอื่นมาเตรียมอุปกรณ์กันก่อน เราไม่ต้องใช้สายชาร์จ ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ แค่ iPhone ของเราก็พอ!

ขั้นตอนที่ 1: เปิดการตั้งค่า

ง่ายๆ เลย แค่เข้าไปที่ “การตั้งค่า” (Settings) แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง

ขั้นตอนที่ 2: คลิก “แบตเตอรี่”

มองหาคำว่า “แบตเตอรี่” (Battery) แล้วคลิกเข้าไปเลย

ขั้นตอนที่ 3: เปิดใช้งาน “สุขภาพแบตเตอรี่”

ในเมนูแบตเตอรี่ จะมีคำว่า “สุขภาพแบตเตอรี่” (Battery Health) ให้เราคลิกเปิดใช้งาน

ขั้นตอนที่ 4: ดู “ความจุสูงสุด”

ในหน้าสุขภาพแบตเตอรี่ จะมีข้อมูลสำคัญอยู่ 2 ค่า คือ “ความจุสูงสุด” (Maximum Capacity) และ “ความสามารถในการทำงานสูงสุด” (Peak Performance Capability)

ค่า “ความจุสูงสุด” บอกเราว่าแบตเตอรี่ของเรายังคงใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับตอนที่ซื้อมาใหม่

ตัวอย่าง

100% แสดงว่า แบตเตอรี่ยังคงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
80% แสดงว่า แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปแล้ว 20%

ขั้นตอนที่ 5: เช็ค “ความสามารถในการทำงานสูงสุด”

ค่านี้บอกเราว่า iPhone ของเรายังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่

ทำงานได้ตามปกติ แสดงว่า iPhone ของเรายังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลดลง แสดงว่า แบตเตอรี่ของเราเสื่อมสภาพ และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone สนุกกับการเช็คแบตฯ แบบนี้!

เป็นยังไงบ้าง? ง่ายๆ ใช่มั้ยล่ะ! แค่ไม่กี่ขั้นตอน เราก็สามารถเช็คคุณภาพแบตเตอรี่ของ iPhone ได้แบบสบายๆ แถมยังสนุกอีกต่างหาก!

เคล็ดลับ!

เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone

• อย่าปล่อยให้แบตฯ เหลือน้อยกว่า 20%
• ใช้สายชาร์จและอะแดปเตอร์ของแท้
• ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน
• ปรับลดความสว่างหน้าจอ

สนุกกับการใช้ iPhone ของเพื่อนๆ นะครับ