GoPro HERO12 Black vs HERO11: มีอะไรใหม่และคุ้มค่ากับการอัปเกรดหรือไม่?

1. การออกแบบและรูปลักษณ์

ในแง่ของการออกแบบ HERO12 Black และ HERO11 มีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันมาก ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์เสริมที่คุณมีสำหรับ HERO11 ยังคงสามารถใช้งานได้กับ HERO12 อย่างไม่มีปัญหา จุดเด่นคือ HERO12 มีการปรับปรุงในด้านความทนทานและการจัดวางปุ่มที่ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้น

2. คุณภาพของวิดีโอและภาพถ่าย

การอัปเกรดที่เด่นชัดที่สุดของ HERO12 Black คือคุณภาพของวิดีโอและภาพถ่าย HERO12 มาพร้อมกับความสามารถในการบันทึกวิดีโอ 5.3K ที่ 60fps ซึ่งให้รายละเอียดและความคมชัดที่เหนือกว่า HERO11 นอกจากนี้ HERO12 ยังสามารถบันทึกวิดีโอ HDR ซึ่งช่วยให้รายละเอียดในพื้นที่มืดและสว่างถูกบันทึกได้ดีขึ้น

3. อายุการใช้งานแบตเตอรี่

แบตเตอรี่เป็นหนึ่งในข้อดีที่สำคัญของ HERO12 Black ด้วยการปรับปรุงด้านการจัดการพลังงานทำให้ HERO12 สามารถใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แม้ว่าจะมีการใช้งานในโหมดความละเอียดสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ HERO11 ยังทำไม่ได้ดีเท่า HERO12

4. ฟีเจอร์กันสั่นที่อัปเกรด

ฟีเจอร์ HyperSmooth ยังคงเป็นจุดเด่นของ GoPro ทั้งสองรุ่น แต่ใน HERO12 มีการพัฒนา HyperSmooth เวอร์ชัน 6.0 ที่ทำให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่นยิ่งขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างการขับรถจักรยานยนต์หรือเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม

5. การเชื่อมต่อและการใช้งานร่วมกับแอป

HERO12 Black ได้ปรับปรุงการเชื่อมต่อที่ทำให้การใช้งานร่วมกับแอป GoPro Quik มีความราบรื่นขึ้น รวมถึงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่ดีขึ้น อีกทั้งยังรองรับการสตรีมแบบสด (Live Streaming) ที่ความคมชัดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ HERO11

คุ้มค่ากับการอัปเกรดหรือไม่?

หากคุณเป็นผู้ที่ใช้ HERO10 หรือรุ่นก่อนหน้า การอัปเกรดไป HERO12 Black น่าจะคุ้มค่าอย่างยิ่งเนื่องจากคุณจะได้ประสิทธิภาพของกล้องที่ดีกว่าในทุกๆ ด้าน แต่หากคุณใช้งาน HERO11 อยู่แล้ว คุณอาจไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเว้นแต่ว่าคุณต้องการคุณสมบัติที่ปรับปรุงใหม่ๆ เช่น อายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นและการบันทึกวิดีโอที่ละเอียดมากขึ้นในสถานการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวมาก